สถานที่ท่องเที่ยวบนเขาค้อ 

        ทะเลหมอกเขาค้อ      
      ทะเลหมอกบนเขาค้อ บริเวณที่เกิดทะเลหมอกบนเขาค้อ คือบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งอยู่ด้านล่างของถนนเส้นทางหลักสาย 2196 บริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการอำเภอเขาค้อ สามารถชมทะเลหมอกได้เป็นระยะทางค่อนข้างยาวไกล ในช่วงเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า


    
       อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ 
       อนุสรณ์ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา โดดเด่นด้วยแท่งหินอ่อนรูปทรงสามเหลี่ยม ออกแบบโดย ดร.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ ได้เสด็จฯ มาเป็นองค์ประธานเปิดอนุสรณ์สถานแห่งนี้ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2527 เพื่อเตือนใจคนไทยทั้งชาติว่า "ยามใดที่คนไทยขัดแย้งกัน จะต้องมีการสูญเสียอย่างผู้กล้าหาญ 1,171 ชีวิต ที่จารึกไว้กับองค์อนุสรณ์ จงอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก" ทางจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้กำหนดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา ให้เป็นวันสมโภช อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อแห่งนี้
        นอกจากนี้บริเวณด้านข้างของอนุสรณ์ฯ เป็นฐานจำลองการสู้รบ ที่เป็นเนินเตี้ยๆ มีหลุมหลบภัย มีกระสอบทรายบังเกอร์ ซึ่งในอดีตที่แห่งนี้เป็นฐานแห่งแรกที่ทหารไทยยึดคืนมาได้จากการสู้รบกับ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) นอกจากนี้ บริเวณอนุสรณ์สถาน ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนเขาค้อ เนื่องจากตั้งอยู่บนส่วนที่สูงที่สุด สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเนินเขาลูกเล็ก ลูกน้อย ไล่เลียงกันเป็นทะเลภู แลในเช้าวันที่มีทะเลหมอกด้านล่าง ยังสามารถชมทะเลหมอกได้จากจุดชมวิวนี้ได้ด้วย



         พิพิธภัณฑ์อาวุธ
       พิพิธภัณฑ์ อาวุธ (ฐานอิทธิ) ตั้งชื่อตาม พันเอก อิทธิ สิมารักษ์ ผู้มีบทบาทสำคัญในการต่อสู้ยึดพื้นที่เขาค้อคืนจาก ผกค.ในปี พ.ศ.2524 บริเวณนี้เคยเป็นฐานปืนใหญ่ ยิงสนับสนุนการ สู้รบ ปัจจุบันจัดให้ เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง มีอาวุธยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการสู้รบตั้งอยู่มากมาย เช่น เครื่องบินขับไล่ เอฟ 5 รถสายพานลำเลียงพล ปืนใหญ่ ปืนใหญ่ขนาด 105 มม. จำนวน 2 กระบอก ปืนใหญ่ ขนาด 155 มม. ยิงได้ไกล 11 กิโลเมตร 1 กระบอก ฯลฯ ภายในอาคารมีห้องบรรยายสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ ในยุทธภูมิเลือดเขาค้อ มีห้องจัดนิทรรศการ เกี่ยวกับอุปกรณ์ เครื่องใช้ เสื้อผ้า อาวุธของคอมมิวนิสต์ ส่วนด้านนอกอาคารยังมีฐานอาวุธ จัดแสดงอาวุธยุทโธปากรณ์ เช่น ปืนใหญ่ รถถัง รถแทรกเตอร์ บังเกอร์หลบภัย แต่ละจุดมีป้ายประวัติพร้อมคำอธิบายประกอบ



       วัดพระธาตุผาแก้ว 
       วัดพระธาตุผาแก้ว หรือชื่อเดิมว่า วัดผาซ่อนแก้ว ตั้งอยู่บนยอดเนินเขาลูกหนึ่ง บนเชิงหน้าผาของภูเขาที่มีชื่อว่า "ผาซ่อนแก้ว"  ที่มีภูมิทัศน์สวยงาม เงียบสงบ และโดดเด่นมากที่สุดบนถนนสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ความโดดเด่นสวยงามนี้ยังถูกเสริมเติมแต่งให้วิจิตรงดงามมากขึ้น ด้วยองค์พระเจดีย์สูงสง่า ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน
        เจดีย์พระธาตุผาแก้ว มีรูปทรงวิจิตรงดงามด้วยการออกแบบ และการเอาใจใส่ในรายละเอียดทุกกระเบียดนิ้ว รูปร่างขององค์เจดีย์ สร้างเลียนแบบดอกบัวที่ซ้อนกัน 7 ชั้น เพื่อถวายแด่องค์พระพุทธเจ้า สีสันที่สดใสของเจดีย์ เกิดจากการนำกระเบื้องสี ถ้วยชามเบญจรงค์ มุก ลูกปัด แก้ว แหวน เงินทอง สิ่งมีค่าต่างๆ ตลอดจนเซรามิคหลากสีสัน มาประดับประดาตกแต่ง เป็นลวดลายที่สวยงาม  หากได้เดินเข้าไปชม ใกล้ๆ ก็จะพบสีสัน และลวดลาย ที่มีรายละเอียดน่าอัศจรรย์ใจ จากวัสดุที่นำมาประกอบกัน จนเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ เราสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย จากลวดลายในที่ประกอบกัน อาจเป็นหลักธรรม คำสอน อนิจจัง ความเป็นไปของโลก หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แอบแฝงอยู่ในงานศิลปกรรม ประติมากรรม ที่อยู่เบื้องหน้า สุดแท้แต่ว่าจะตีความกันอย่างไร เอกสิทธิ์มุมมองของแต่ละบุคคลเป็นอย่างไร



         พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก    
         พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษกตั้งอยู่บนเขาค้อ ริมทางหลวงหมายเลข 2196 อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอเขาค้อไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะเห็นพระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก อยู่ติดถนนด้านขวามือ  เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมผสมผสานทั้งแบบสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้กับประชาชนในพื้นที่ หลังจากยุติการสู้รบกับคอมมิวนิสต์ใน ประเทศไทย 



       น้ำตกศรีดิษฐ์ 
       น้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นน้ำตกหินชั้นขนาดใหญ่ มีน้ำตกตลอดทั้งปี  นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อน       รับประทานอาหาร ลงเล่นน้ำ และซื้อของที่ระลึกของชาวเขากลับบ้านได้ ที่น้ำตกนี้ เดิมเคยเป็นที่อยู่ของกลุ่ม ผกค. ซึ่งยังปรากฎหลักฐาน และสิ่งของเครื่องใช้หลายอย่างของกลุ่ม ผกค.ในบริเวณน้ำตก เช่นครกตำข้าวที่ ผกค. สร้างขึ้นโดยใช้พลังน้ำตกช่วยเคลื่อนกังหันตำข้าว เป็นต้น


          หอสมุดนานาชาติเขาค้อ
          หอสมุดนานาชาติเขาค้อ เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือ สมุดเยี่ยมชม และของใช้เก่าแก่โบราณ ทั้งของไทย และต่างประเทศสร้างขึ้นเมื่อปี 2538   โดยบริเวณหอสุมดมีพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ ที่โดดเด่นตรงกลางเป็นหอสมุดขนาดใหญ่ รูปเพชรคว่ำ สร้างด้วย กระจกสะท้อนแสง พื้นที่ด้านหน้าจัดทำเป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว นานาพันธุ์  ออกดอกสวยงามตลอดปี ด้านซ้ายของหอสมุด เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุเจดีย์ ซึ่งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากประเทศศรีลังกามาบรรจุไว้ภายใน และมีหล่อหลวงพ่อทบพระผู้ใหญ่ที่เป็นที่นับถือของชาวเพชรบูรณ์ ขนาดเท่าองค์จริง ประดิษฐานอยู่ด้วย



         Route 12   
        มนต์เสน่ห์แห่งถนนสาย 12 ด้วยกลิ่นอายเข้มข้นของโลกตะวันตก ที่ถูกยกมาไว้ที่เขาค้อ เป็นบรรยากาศที่เข้ากันได้อย่างกลมกลืนระหว่างสิ่งก่อสร้างที่ถูกรังสรรค์ ขึ้น กับทิวทัศน์ตามธรรมชาติทิวเขาเบื้องหลัง จนหลายต่อหลายคนหมายตาไว้เป็นจุดแวะที่ต้องมาเก็บภาพเป็นที่ระลึกอีกแห่ง หนึ่ง
หน้า ร้านที่ถูกตกแต่งเป็นปั๊มน้ำมัน แหล่งแวะพักริมทาง ยามต้องการเพิ่มพลังจากการเดินทางยาวนานบนเส้นทาง Route 12 ภายในร้าน ก็ประดับตกแต่งไปด้วยสิ่งสะสมที่เข้ากับบรรยากาศร้านได้เป็นอย่างดี อย่างกับเดินหลงเข้าไปในร้านคาวบอย ในเท็กซัส ป้ายทะเบียนรถน่ารักๆ โลโก้สินค้าเก่าๆ แม้กระทั่งพัดลมโบราณเล็กๆ ล้วนทำให้สามารถเคลิ้มไปกับบรรยากาศรอบข้าง